วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

"ว.วชิรเมธี-แม่ชีศันสนีย์" ตกผลึกแง่คิดปั้นลูกให้เกิดมาดี

"ว.วชิรเมธี-แม่ชีศันสนีย์" ตกผลึกแง่คิดปั้นลูกให้เกิดมาดี

ขึ้นชื่อว่าเป็น "พ่อแม่คน" แค่ในนามอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะถือเป็นงานสำคัญ ที่ต้องใช้ทั้งหัวใจปั้นลูกให้เกิดมาดีด้วยความรักอย่างมีสติ เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย และทางใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยกับการเลี้ยงลูกท่ามกลางยุคสมัยที่รายล้อมไปด้วยความเสี่ยงรอบด้าน แต่หากพ่อแม่เข้าใจ และใช้หลักธรรมเลี้ยงลูกอย่างถูกทาง คงจะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้งานปั้นลูกในยุคสมัยใหม่มีความหวังมากขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยและแนวทางให้กับพ่อแม่ในการปั้นลูก วันนี้ทีมงาน Life and Family มีแง่คิดดีๆ ที่เห็นเป็นรูปธรรมจาก พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย และ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน ในงานเปิดตัวหนังสือ "มีความสุขให้ลูกเห็น เป็นคนดีให้ลูกดู" เก็บมาฝากกัน

โดยท่านว.วชิรเมธี พระนักคิด นักเทศน์ กล่าวไว้ว่า พ่อแม่มีสิทธิเลือกลูก และลูกก็มีสิทธิเลือกพ่อแม่เช่นกัน เราจะได้รับในสิ่งที่เหมาะสมกับจิตของเรา โดยการ "ปฏิสนธิจิต" คือ จิตที่จะอยู่ในครรภ์ของแม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของคุณธรรมด้วย ถ้าเราอยากได้ลูกดีมาเกิด พ่อแม่ก็ต้องดำรงอยู่ในศีลธรรม

ดัง นั้น หน้าที่ของการเป็นพ่อแม่ คือหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นแค่ในนาม แต่พ่อแม่ที่สร้างลูก เปรียบเสมือนผู้ที่สร้างโลก เด็ก ๆ คือความหวังของมนุษยชาติ และวันพรุ่งนี้

"งาน สร้างโลก คืองานสร้างลูก เราจะออกแบบคนไทยในวันพรุ่งนี้อย่างไรให้มีคุณภาพ นี่คือโจทย์ที่ท้าทาย และดูเหมือนจะทำได้ยาก แต่พวกคุณกล้าไหม จากลูกของเรา ให้กลายเป็นลูกของโลก ซึ่งพ่อแม่ที่จะสามารถเป็นผู้สร้างโลกได้ คือพ่อแม่ที่มีหัวใจเป็นพระโพธิสัตว์ ไม่ว่าลูกจะเกิดมาเป็นอย่างไร สมบูรณ์หรือไม่ พ่อแม่จะไม่ปฏิเสธลูก เลี้ยงลูกให้ดีที่สุด และพร้อมที่จะยอมรับลูกในทุกๆ สภาวะที่ลูกเป็น" ท่านว.วชิรเมธีให้สติ

เช่นเดียวกับ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน ผู้ มีประสบการณ์เชิงรุก และเชิงรับในการทำงานกับเด็ก และครอบครัวมากกว่า 20 ปี เผยถึงการเลี้ยงลูกด้วยหลักวิถีพุทธในงานเดียวกันนี้ว่า เมื่อคิดที่จะมีลูก ต้องเริ่มจากการเตรียมความพร้อมของการเป็นพ่อแม่ ตั้งแต่การอธิษฐานจิตตั้งใจ และตั้งใจมั่นที่จะทำให้สำเร็จ ถ้าพ่อแม่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ใจจะมีพลัง และเป็นกุศล ซึ่งจะช่วยส่งผลให้จิตที่ดีมาปฏิสนธิในครรภ์แม่

สิ่งเหล่านี้ แม่ชีท่านนี้บอกว่า ถือเป็นการลงทุนเพียงน้อยนิด แต่ให้ผลกำไรมหาศาล โดยพุทธศาสนามีแต่กรรมลิขิต ซึ่งหมายความว่า อยากให้ลูกเป็นแบบใด ก็จงทำตัวแบบนั้นให้ลูกเห็น ซึ่งพ่อแม่ไม่ควรเลี้ยงลูกให้เป็นดั่งใจเรา เพราะตัวพ่อแม่เองจะเป็นทุกข์ แต่ควรเลี้ยงลูกด้วยความรัก และความเข้าใจ ตราบใดที่หัวใจของแม่กอดลูก ก็เท่ากับหัวใจของแม่กอดโลก

"ใน สังคมปัจจุบัน รอบ ๆ ตัวเด็กรายล้อมไปด้วยโลกแห่งวัตถุ พ่อแม่มีหน้าที่ประคับประคองจิตใจเด็ก ๆ ให้มีสติโดยคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น อารมณ์มาแป๊บๆ แล้วก็จากไป สุขแป๊บๆ โศกแป๊บๆ แล้วก็จากไป พ่อแม่ไม่ใช่ผู้ชี้นำ อย่าชี้ผิดชี้ถูกกับลูก แต่พ่อแม่เปรียบเหมือนผู้สังเกต สังเกตในสิ่งที่เขาเป็น ให้เขาพอใจในสิ่งที่เขาทำ มีความสุขในสิ่งที่เขาเป็น ให้เขาค้นพบด้วยตัวเอง หลังจากนั้น จึงค่อยๆ สอนลูกให้มีจิตที่เป็นสมาธิ สื่อสารกับเด็กให้เขามั่นคง และเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม" แม่ชีศันสนีย์ให้แนวทางในการปั้นลูกยุคใหม่

มาฟังเสียงของคุณแม่คนเก่งอย่าง สู่ขวัญ บูลกุล พิธีกร และผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ใน บทบาทของการเป็นแม่ เธอเชื่อเสมอว่า การเลี้ยงลูกให้ดี พ่อแม่ต้องเอาสิ่งไม่ดีออกจากตัวเองเสียก่อน พร้อมกับเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ใส่วิจารณญาณ และศีลธรรมเป็นวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก โดยให้คุณค่าในสิ่งที่คิดว่าดีสำหรับลูก ที่สำคัญ พ่อแม่ต้องให้ความรักกับลูกอย่างถูกทาง และท้ายที่สุดลูกก็จะสามารถแยกแยะได้เองว่า อะไรผิดอะไรถูก สิ่งไหนควรทำ หรือไม่ควรทำ

การ เลี้ยงลูกให้เกิดมาดี นับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าท้ายของพ่อแม่ท่ามกลางสังคมยุคใหม่ที่รายล้อมไปด้วย ความเสี่ยงต่างๆ ทำให้งานเลี้ยงลูกเป็นงานที่หนัก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ พ่อแม่ต้องเป็นคนดีให้ลูกดู มีความสุขให้ลูกเห็น ดังคำที่ว่า "อยากให้ลูกเติบโตเป็นคนอย่างไร พ่อแม่ต้องเป็นแบบนั้นให้ลูกเห็น" เพราะแบบอย่างของพ่อแม่ คือต้นแบบในการเรียนรู้และเลียนแบบของลูก

ที่มา
ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น