วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ครรภ์ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

ครรภ์ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

การตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะดำเนินไปอย่างปกติและราบรื่น แต่ก็มีบางภาวะที่แพทย์คิดว่า อาจจะมีโอกาสเกิดปัญหายุ่งยากซับซ้อนขึ้นได้ จึงต้องมีการติดตามดูแลการตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งปัญหาเหล่านั้นก็ได้แก่

- โลหิตจาง
ผู้หญิงส่วนมากมักมีภาวะโลหิตจางเล็กน้อยก่อนตั้งครรภ์ เพระร่างกายขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข เพื่อพร้อมรับมือกับความต้องการธาตุเหล็กที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ รวมทั้งการเสียเลือดระหว่างคลอด การป้องกันโลหิตจางทำให้ได้โดยการกินอาหารหลากชนิดให้ครบหมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก เช่น เนื้อแดงไม่ติดมัน ปลาทูน่า ผักโขม ผักปวยเล้ง ตับ เป็นต้น ถ้าแพทย์ตรวจพบว่ามีอาการโลหิตจาง อาจจะจัดธาตุเหล็กเสริมให้ โดยควรกินหลังอาหารมื้อหนัก เพราะเหล็กจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และอาจทำให้คลื่นไส้หรืออาเจียนได้

- เบาหวาน
หากแม่เป็นโรคเบาหวานอยู่ก่อนแล้ว ต้องควบคุมอย่างระมัดระวัง โดยการเช็คน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติสม่ำเสมอ โดยแพทย์จะให้อินซูลิน โดยปรับขนาดให้เหมาะสม และคุณแม่ก็ต้องระวังเรื่องอาหารการกินร่วมด้วย และต้องไปตรวจครรภ์บ่อยกว่าปกติ ซึ่งบางรายก็พบภาวะเบาหวานอย่างอ่อนๆ ระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งจะหายไปเองหลังจากคลอดไม่นาน

- ปากมดลูกปิดไม่สนิท
ในการตั้งครรภ์ปกติ ปากมดลูกจะปิดสนิทจนถึงเวลาคลอด แต่หากคุณแม่มีอาการแท้งซ้ำหลังช่วง 3 เดือนแรก อาจเกิดจากสาเหตุของมดลูกไม่แข็งแรงและปากมดลูกปิดไม่สนิท แพทย์มักแนะนำให้มีการผ่าตัดเล็ก เพื่อเย็บรูดปากมดลูกให้ปิดสนิทตั้งแต่ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ และเอาไหมเย็บออกเมื่อเจ็บท้องคลอด

- ครรภ์เป็นพิษ
เป็นอาการที่พบบ่อยในการตั้งครรภ์ช่วงท้าย มักมีอาการความดันโลกหิตสูงเกิน 140/90 น้ำหนักตัวของคุณแม่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ข้อเท้า เท้า หรือมือบวม ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ ถ้ามีอาการเหล่านี้ แพทย์ต้องดูแลเป็นพิเศษ และถ้าความดันโลหิตสูงควบคุมไม่ได้ อาจจะเกิดอันตรายมาก ทำให้ชักหรือหมดสติได้ แพทย์จะแนะนำให้คุณแม่พักผ่อนมากๆ อาจมีการให้ยาลดความดัน งดอาหารที่มีรสเค็มจัด ถ้าอาการรุนแรงอาจจะต้องรักษาอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล และแพทย์อาจจะกระตุ้นให้เกิดการคลอดขึ้น

- ทารกเล็กกว่าอายุครรภ์
ทารกบางคนเติบโตไม่ปกติในครรภ์ และจะตัวเล็กเมื่อคลอด เรียกว่า "ทารกตัวเล็กกว่าอายุครรภ์" ภาวะนี้เกิดจากแม่ที่สูบบุหรี่ กินอาหารที่มีคุณค่าต่ำ รกไม่สมบูรณ์ หรือมีปัญหาสุขภาพ เช่น เบาหวาน ซึ่งถ้าตรวจพบว่าทารกตัวเล็กกว่าอายุครรภ์ แพทย์จะดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการตั้งครรภ์ ดูว่าเลือดไปเลี้ยงที่รกเพียงพอหรือไม่ และถ้ามีอาการหยุดการเจริญเติบโต หรือมีภาวะที่น่าเป้นห่วง แพทย์อาจเร่งห้คลลอดเร็วขึ้น

- ฝาแฝด
การตั้งครรภ์แฝดอาจทำให้แม่เกิดภาวะโลหิตจาง ครรภ์เป็นพิษ หรือทารกนอนในท่าที่ผิดปกติ จึงควรไปตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอถ้ามีลูกแฝด การตั้งครรภ์ลูกแฝดจะทำให้ร่างกายเหนื่อยกว่าปกติ จึงต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น ระวังเรือ่งการทรงตัว และพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

- ตกเลือด
ถ้ามีเลือดออกจากช่องคลอดไม่ว่าจะตั้งครรภ์ในระยะกี่สัปดาห์ ต้องรีบไปพบเพทย์ทันที และนอนพักที่เตียง ถ้ามีอาการตกเลือกในช่วงก่อน 28 สัปดาห์ อาจะเป็นอาการนำของการแท้ง ถ้าหลังจากนี้อาจเป็นเพราะรกลอกตัวก่อนกำหนด หรือรกเกาะต่ำได้ ถ้ารกมีปัญกา แพทย์จะแนะนำให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที

- การแท้งลูก
คือการตั้งครรภ์ที่สิ้นสุดลงก่อน 28 สัปดาห์ พบได้ 1 ใน 5 ของการตั้งครรภ์ และส่วนใหญ่จะเกิดในช่วง 12 สัปดาห์แรก ซึ่งมักเกิดจากความผิดปกติของทารกเอง อาการแรกคือ มีการตกเลือด จึงควรรีบพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ยังอาจมีภาวะอาจแท้ง ซึ่งมีอาการเลือดออกเล็กน้อย ไม่เจ็บปวด มักจะตั้งครรภ์ต่อไปได้ ถ้าทำตามคำแนะนำของแพทย์ และเลือดหยุดไปภายใน 2-3 วัน แต่การแท้งจริงจะมีการตกเลือก และรู้สึกปวด ทารกมักจะไม่มีชีวิตแล้ว จึงควรไปพบแพทย์โดยด่วน

ที่มา
http://www.being-mom.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น