วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ต้องปรึกษาแพทย์อย่างรีบด่วนเมื่อไร

ต้องปรึกษาแพทย์อย่างรีบด่วนเมื่อไร ?

1. เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนออกมาอย่างแรง และเป็นอยู่เป็นเวลานาน
2. มีเลือดออกมาทางช่องคลอด แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม จะต้องรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
3. มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เป็นอยู่นานแล้วก็ยังปวดไม่หาย
4. มีอาการปวดบวมตามใบหน้า มือ เท้า รวมทั้งข้อเท้า ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเกิดมีเกลือ คั่งอยู่ในร่างกายของท่านก็ได้ เมื่อแพทย์แนะนำให้ลดอาหารที่มีรสเค็มลง เช่น ลดน้ำปลา เกลือ ซีอิ๊ว ซ็อสต่างๆ ก็จะต้องลดลงตามคำแนะนำ ไม่เช่นนั้นก็เกิดผลเสียตามมาอีกเป็นอันตรายได้ ความดันโลหิตจะสูงขึ้นได้ ไตก็ทำงาน ผิดปกติได้ แพทย์เรียกว่า "ครรภ์เป็นพิษ" เรื่องนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่สตรีตั้งครรภ์เสียชีวิตลงได้รวมทั้งในระยะคลอดหรือหลังคลอดด้วย
5. มีอาการปวดศีรษะมาก ปวดอยู่นานๆ ก็ไม่หายสักที
6. ตามัวมองอะไรก็เป็นจุดเป็นดวงไปหมด
7. ปัสสาวะน้อยลง หรือเวลาขับถ่ายปัสสาวะเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนหรือขัดเวลา ถ่ายปัสสาวะ
8. มีอาการไข้ หนาวสั่น
9. ทารกในครรภ์ดิ้นน้อยลงหรือเฉยไม่ดิ้นเอาเลย
10. เกิดอาการถุงน้ำแตก มีน้ำไหลออกมาทางช่องคลอด สิ่งเหล่านี้จะต้องรีบไปพบแพทย์โดยรีบด่วนทั้งนั้น เพราะบางทีอาจจะเกิดอันตรายรุนแรงได้


ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
ผู้ที่จะเป็นมารดาทั้งหลายนั้น จำเป็นจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนบางอย่างเพื่อความปลอดภัยของท่านเสมอ วัคซีนที่จะฉีดนั้น แพทย์จะฉีดให้ท่าน รวม 2 ครั้ง เป็นวัคซีนป้องกันบาดทะยัก

ฉีดครั้งแรกในตอนที่ท่านไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัย

ฉีดครั้งที่ 2 เมื่อก่อนกำหนดคลอด 1 เดือน เป็นอันว่าครบถ้วน เพื่อป้องกันบาดทะยักที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ในสมัยโบราณนั้น "หมาตำแย" ได้ทำคลอดด้วยความสกปรก ไม่มีการระมัดระวังในเรื่องความสะอาดนัก บางทีผู้เป็นมารดาได้รับเชื้อบาดทะยักเข้าไปเวลาคลอดก็มากมาย ทำให้เกิดการเสียชีวิตขึ้นได้ในที่สุด เพราะบาดทะยักนั่นเอง บางทีทารกก็เสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเชื้อยาดทะยักเข้าไปทางบาดแผลที่สายสะดือ เพราะ "หมอตำแย" เอาไม้ไผ่ตัดสายสะดือทารกนั่นเอง เชื้อบาดทะยัก หรือ "เตตานัส" ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก บาดทะยักในทารกนั้นได้ทำให้ทารกที่เกิดมาตายไปแล้วไม่ใช่น้อย มักจะเสียชีวิตหลังคลอดเพียง 4 - 14 วันเท่านั้นเอง ในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนป้องกันเอาไว้เช่นนี้ก็เป็นประโยชน์มาก เป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

ยาบำรุงเลือด จำเป็นสำหรับสตรีมีครรภ์
สตรีมีครรภ์ทุกท่านจะต้องคิดถึงเรื่องนี้อีกเรื่องหนึ่ง สมัยก่อนอาจจะยังไม่มีใครใช้ แต่สมัยนี้แพทย์แนะนำให้สตรีมีครรภ์รับประทานยาบำรุงเลือด นอกจากสตรีมีครรภ์จะต้องรับประทานอาหารเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังจะต้องคำนึงถึงอาหารที่ดีมีคุณค่าทางโภชนาการมีสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ อีกด้วย

สำหรับยาวิตามินที่สตรีมีครรภ์ได้รับจากโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยเมื่อฝากครรภ์นั้น จำเป็นมากสำหรับบำรุงเลือดให้ผู้ที่จะเป็นมารดาหรือสตรีมีครรภ์มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง คลอดง่าย เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากการตกเลือดในระหว่างคลอดอีกด้วย

การรับประทานยาบำรุงเลือด ให้รับประทานยา 1 -2 เม็ด หลังอาหารเช้าหรือก่อนนอน ต่อจากนั้นก็พักผ่อนให้เพียงพอ ไปพบแพทย์ตามนัด ท่านก็มั่นใจได้ว่า การคลอดของท่านนั้นสมบูรณ์แบบและปลอดภัยที่สุดแน่นอน ไม่มีปัญหา อุปสรรค ใดๆ เกิดขึ้นเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น