วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

อาหารของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์

อาหารของผู้ที่จะเป็นมารดา จะต้องมีอะไรบ้าง สำคัญอย่างไร ?

เรื่องอาหารนั้นสำคัญมากไม่ว่าใครก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังจะเป็นมารดานั้น พึงระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะต้องมีอาหารที่ดี มีประโยชน์ และควรงดอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์และมีโทษแก่ตนเองและทารกในครรภ์ด้วย

กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำว่า อาหารของผู้ที่จะเป็นมารดานั้นจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ คือรับประทานอาหารมากขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าสตรีมีครรภ์นั้นต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้นสำหรับตัวเองและทารก

ฉะนั้น ผู้ที่ตั้งครรภ์จะต้องรับประทานอาหารให้มากพอกับความต้องการ โดยรับประทานอาหารให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ทุกๆ วัน เพื่อให้อาหารที่รับ ประทานเข้าไปบำรุงร่างกายผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ให้แข็งแรง สุขภาพดี การคลอดก็จะง่ายขึ้น อีกประการหนึ่งเพื่อเอาอาหารเข้าไปบำรุงทารกให้สมบูรณ์ เพื่อ สร้างน้ำนมให้เพียงพอสำหรับทารกที่จะเกิดมา คราวนี้มาลองพิจารณาดูอาหารของสตรีมีครรภ์กันต่อไปบ้างมีอะไร


ชนิดของอาหารที่ต้องรับประทาน
- อาหารหมู่ที่ 1 น้ำนม ไข่ เนื้อสัตว์ ปลา ตับ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว อาหารพวกนี้จะเข้าเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกายได้เป็นอย่างดี

- อาหารหมู่ที่ 2 ข้าวสวย ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว เผือก มัน น้ำตาล อาหารพวกนี้จะเข้าไปสร้างพลังงานแก่ร่างกาย

- อาหารหมู่ที่ 3 ผักใบเขียวทุกชนิด มะเขือเทศ ฟักทอง และผักชนิดต่างๆ อาหารพวกนี้จะเข้าไปควบคุมการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ

- อาหารหมู่ที่ 4 ผลไม้ทุกชนิด เช่น กล้วย ส้ม มะละกอ ฝรั่ง อาหารพวกนี้จะเข้าไปควบคุมการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ

- อาหารหมู่ที่ 5 น้ำมันจากพืชและสัตว์ เช่น น้ำมันหมู น้ำกะทิ อาหารพวกนี้จะให้กำลังงานแก่ร่างกาย

นอกจากนี้ผู้ที่กำลังจะเป็นมารดาจะต้องดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6 แก้ว ยกเว้น กรณีที่แพทย์แนะนำเป็นอย่างอื่น มีการขับถ่ายทุกวันโดยเฉพาะเวลาเช้า เพื่อสุขภาพร่างกายที่เป็นปกติเสมอ


อาหารและสิ่งที่ควรงดเว้นเด็ดขาด
ความจริงแล้วอาหารของผู้ที่จะเป็นมารดารับประทานไม่มีอะไรเป็นของแสลง สมควรรับประทานเพื่อการผลิตน้ำนมของท่านจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์ คนโบราณที่มี ความเชื่อว่ารับประทานไข่ไก่ไม่ได้ แสลง รับประทานเนื้อไก่ก็แสลง จะต้องรับประทานข้าวกับเกลือเท่านั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเสียแล้ว

แต่สิ่งที่ควรงดเว้นเด็ดขาดก็เห็นจะเป็นการดื่มสุรา เบียร์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วยไม่ดีแน่นอน เป็นผลเสียแก่ร่างกายของท่านเอง รวมทั้งทารกในครรภ์ น้ำชา กาแฟ ก็ไม่สมควรดื่ม ไม่มีประโยชน์อะไรกับผู้ที่จะเป็นมารดาเลย ควรดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้จะดีที่สุด

บุหรี่ไม่ควรสูบ ไม่เกิดประโยชน์อะไรมีแต่โทษทั้งผู้ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ของตนเอง พิษของบุหรี่นั้นมีมากมาย จะเข้าไปยับยั้งความเจริญเติบโต. ของทารกให้ช้าลง เซลล์ต่างๆ จะไม่สมบูรณ์เต็มที่ ทารกคลอดออกมาก็ตัวเล็กผิดปกติด้วย ดีไม่ดีเกิดพิการก็จะสร้างความเสียใจให้แก่ท่านทันที


สตรีมีครรภ์ควรรับประทานอย่างไร ?
ในระยะ 3 เดือนแรกให้อาหารปกติ ในระยะหลังจึงควรเพิ่มอาหาร ควรบริโภคให้เหมาะกับน้ำหนักตัวที่เพิ่ม คือ

เดือนที่ 4 เพิ่ม 10% เดือนที่ 5 เพิ่ม 18% และเป็น 23% เมื่อคลอด โปรตีนควรเพิ่มมากกว่า 40% ของที่เคยได้รับปกติ คาร์โบไฮเดรทและไขมัน จัดให้พอเหมาะกับแรงงาน ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย
วิตามิน เอ บี ซี และ ดี และเกลือแร่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีนเพิ่มขึ้นตามส่วน ควรได้จากอาหาร ยกเว้นแต่ถ้ามารดาไม่สามารถกินอาหารได้ ก็จำต้องให้ยา ที่มีวิตามินและเกลือแร่ดังกล่าว หญิงมีครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรก จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือที่เรียกว่าแพ้ท้อง ระยะนี้ไม่ควรรับประทานอาหารพวกไขมัน เพราะจะทำ ให้คลื่นไส้อาเจียน ปกติตอนกลางวันอาการคลื่นไส้มักจะหายไป ดังนั้นมารดาอาจจะกินอาหารได้ตอนบ่ายๆ ตอนเย็น และก่อนนอน หากกรณีมารดากินอาหารคาวไม่ได้ ในระยะแพ้ท้อง ให้กินน้ำถั่วเหลืองหรือเต้าหู้แทน ถ้ากินนมได้ยิ่งดี

ในสตรีที่เป็นแม่นม ต้องใช้เพิ่มในการหลั่งน้ำนม ดังนั้นจึงควรเพิ่มอาหารให้อีกไม่น้อยกว่า 600 แคลอรี่ และโปรตีนต้องไม่ต่ำกว่า 15%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น