วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ท้องนอกมดลูก การตั้งครรภ์นอกมดลูก (ectopic pregnancy)

ท้องนอกมดลูก การตั้งครรภ์นอกมดลูก (ectopic pregnancy)


การตั้งครรภ์บริเวณอื่น เช่นปีกมดลูก หรือรังไข่ ถือเป็นภาวะที่น่ากลัวและต้องรักษาอย่างเร่งด่วน ในแพทย์ทั่วไป ถือว่าภาวะนี้เสี่ยงต่อการวินิจฉัยผิดและเสียชีวิตได้


เหตุที่กล่าวว่าอันตรายเพราะ การตั้งครรภ์นอกมดลูกมักเป็นในสาว ๆ รุ่นๆเช่นนักเรียนที่แอบมีเพศสัมพันธ์และไม่ต้องการบอกให้ใครรู้ ดังนั้นหลายรายจะปฏิเสธว่าตัวเองประจำเดือนไม่หายจนมาอีกทีก็ช๊อค บางคนก็ไม่ปวดท้อง มาถึงก็ช๊อคเลยเพราะการเกาะของรกไปเกาะแถว ๆ รังไข่ หรือในช่องท้อง

ที่หนักกว่านั้นก็คือ ไปผ่านการทำแท้งหรือขูดมดลูกมาจากคลินิคเถื่อนโดยคิดว่ากำจัดหมดแล้ว แต่ไม่ได้ทำอัลตราซาวด์ดู หลายรายจึงพบว่าไปทำแท้งมาแล้ว แต่ตกเลือดจากตั้งท้องนอกมดลูก( ในโรงพยาบาลที่เคยอยู่ เจอทุกวัน)และมักปฏิเสธจนกระทั่งคาดคั้นถึงยอมรับ

การตั้งครรภ์นอกมดลูก เกิดจากไข่ที่ถูกผสมเกาะตัวอยู่นอกโพรงมดลูก ที่พบบ่อยคือ ที่ท่อรังไข่ แล้วเกิดการแตก ทำให้ตกเลือดในช่องท้อง มักพบในผู้หญิงที่เคยเป็นโรคปีกมดลูกอักเสบเรื้อรัง มีการผ่าตัดของท่อรังไข่ หรือท่อรังไข่ผิดปกติมาแต่เกิด ทำให้ไข่ที่ถูกผสมไม่สามารถลงมาเกาะตัวอยู่ในโพรงมดลูกตามปกติ
พบได้ประมาณ 1 ใน 200 ของหญิงตั้งครรภ์

อาการ
ผู้ป่วยมักมีประวัติขาดประจำเดือน 1-2 เดือน หรือไม่ก็สังเกตว่าประจำเดือนมาผิดไปจากทุกครั้ง เช่น มากะปริดกะปรอยไม่มาก สีน้ำตาลคล้ำ แล้วอยู่ดีๆ ก็มีอาการปวดเสียดในท้องน้อยขึ้นทันทีทันใด ปวดรุนแรงเป็นชั่วโมง อาจร้าวไปหลัง ถ้านอนหัวต่ำ อาจมีอาการปวดเสียวที่หัวไหล่

ต่อมาผู้ป่วยมีอาการเป็นลม เหงื่อออก ตัวเย็น ในรายที่เป็นเรื้อรัง อาจมีเพียงอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง ร่วมกับประจำเดือนกะปริดกะปรอย

สิ่งตรวจพบ
- ซีด กระสับกระส่าย ชีพจรเบา ความดันต่ำ อาจกดเจ็บหรือคลำได้ก้อนที่บริเวณท้องน้อย
- ในรายที่เป็นเรื้อรังอาจตรวจไม่พบอาการชัดเจน ทำให้คิดว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ ก้อนถุงน้ำของรังไข่ (ovarian cyst) หรือแท้งบุตรได้

อาการแทรกซ้อน
อาจทำให้ปีกมดลูกอักเสบ ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือเป็นหมัน ที่สำคัญคือ เกิดการตกเลือดในช่องท้องจนช็อกถึงตายได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

การรักษา
ถ้าสงสัยควรส่งโรงพยาบาลด่วน ถ้ามีภาวะช็อกควรงดน้ำและอาหารและให้น้ำเกลือไประหว่างทางด้วย มักจะวินิจฉัยโดยการตรวจภายในช่องคลอด เจาะเลือด ตรวจดูระดับฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ซึ่งย่อมาจาก (human chorionic gonadotropin) อาจต้องตรวจอัลตราซาวนด์ หรือใช้กล้องส่องตรวจช่องท้อง (laparoscope) ถ้าเป็นจริงก็ต้องรีบให้เลือด และทำการผ่าตัดทันที

ข้อแนะนำ
1. ถ้าพบผู้หญิงที่มีอาการเป็นลมหรือปวดท้อง ควรถามประวัติที่เกี่ยวกับประจำเดือนทุกราย (แม้ว่าจะไม่ได้ประวัติการแต่งงานอย่างเป็นทางการก็ตาม) ถ้ามีอาการประจำเดือนขาดหรือมีเลือดออกทางช่องคลอดกะปริดกะปรอย อาจมีสาเหตุการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้
2. การรักษาโรคนี้มีวิธีเดียวคือ การผ่าตัด หลังผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถตั้งครรภ์ที่ปกติได้ ถึงแม้มีโอกาสในการตั้งครรภ์น้อยลงก็ตาม
* ผู้หญิงที่ปวดท้องรุนแรงและประจำเดือนขาด อาจเป็นโรคตั้งครรภ์นอกมดลูก

ที่มา
http://www.thaihealth.net/h/article518.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น